แอร์กินไฟขึ้น อาจเป็นเพราะไม่ได้ล้างแอร์
เคยไหมอยู่ดี ๆ ค่าไฟก็ขึ้นแบบผิดปกติ หรือต้องเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำกว่าที่เคยเปิด ยิ่งปล่อยไว้ยิ่งหนาวจากค่าไฟที่จะมาเยือนตอนต้นเดือนเลย เรามาเข้าใจปัญหาของการกินไฟของแอร์กัน
เมื่อใช้งานแอร์เป็นระยะเวลานาน สิ่งสกปรกต่างๆ ย่อมสะสมอยู่ภายในเครื่อง ทำให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลง และเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาแอร์กินไฟขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายและอันตรายได้ ดังนั้น การล้างแอร์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรทำเป็นประจำ
ทุกวันนี้เราล้างแอร์บ่อยแค่ไหนกันนะ สองปีครั้งหรือปีละครั้ง ยิ่งฝุ่น PM2.5 มีมากขึ้นในทุก ๆ ปี ยิ่งทำให้มีฝุ่นเข้าไปในแอร์ของเรามากขึ้น ยิ่งเกาะกันหนาแน่นยิ่งทำให้การทำงานของแอร์หนักขึ้น สะสมจนทำให้แอร์ตัน มีน้ำหยด แอร์ไม่เย็น หรือหนักสุดคือแอร์อาจจะพังได้เลย
สาเหตุของแอร์กินไฟขึ้น
มีหลายสาเหตุที่อาจทำให้แอร์กินไฟขึ้น ได้แก่
- สิ่งสกปรกสะสมภายในเครื่อง เช่น ฝุ่นละออง เศษผง คราบน้ำมัน ทำให้ระบบทำงานหนักขึ้นจนเกิดความร้อนสูง
- การบำรุงรักษาไม่ดี เช่น ไม่เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ, ไม่ล้างแอร์, ไม่หยอดน้ำยาฆ่าเชื้อ
- อายุการใช้งานนานเกินไป ทำให้ชิ้นส่วนเสื่อมสภาพ
- การติดตั้งไม่ถูกต้อง ทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไป
แน่นอนว่าสาเหตุของการกินไฟมากขึ้นยังมีอีกหลายอย่าง แต่แน่นอนว่าขนาดรถยนต์เรายังต้องหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อถึงระยะของมัน แอร์ก็เหมือนกันพอถึงเวลา 6 เดือนเราก็ควรต้องสังเกตว่าแอร์ของเราเย็นน้อยลงไหม หรือบางเดือนมีค่าไฟแพงขึ้นผิดปกติไหม หากพบปัญหาเหล่านั้นต้องรีบล้างแอร์ เพื่อทำให้ยืดอายุของแอร์ และเพื่อสุขภาพการนอนที่ดีของคุณอีกด้วย
วิธีป้องกันแอร์กินไฟขึ้น
เพื่อป้องกันปัญหาแอร์กินไฟขึ้น ควรปฏิบัติดังนี้
1. ล้างแอร์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง โดยการล้างแอร์ควรให้ช่างผู้ชำนาญเป็นผู้ดำเนินการ
การล้างแอร์มีได้หลายวิธีจะล้างด้วยตัวเองหรือให้ช่างที่ชำนาญการล้างมาล้างก็ได้ แต่การล้างด้วยตัวเองก็มีข้อจำกัดในเรื่องของอุปกรณ์ทำความสะอาดที่อาจจะไม่ได้ทำความสะอาดลึกเหมือนการให้ผู้เชี่ยวชาญมาล้าง เพราะการล้างแอร์แบบชุดใหญ่ต้องมีอุปกรณ์ที่ครบ การฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อล้างส่วนต่าง ๆ ของแอร์ หรือการใช้น้ำยาเฉพาะในการทะความสะอาดคราบฝังแน่น ๆ ต่าง ๆ ในแอร์ของคุณ
2. เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศทุก 2-3 เดือน
แผ่นกรองอากาศก็เป็นส่วนสำคัญที่คอยกรองสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่สะสมในห้องของคุณของมาผ่านตัวกรอง จะทำให้อากาศที่อยู่ในห้องถูกกรองให้สะอาดมากขึ้น หากไม่ทำการเปลี่ยนกรองอากาศจะทำให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นสะสมอยู่ในทุกที่ของห้อง ไม่ว่าจะเป็นชุดเครื่องนอน ของใช้หรือของกินที่เรากินทุกวัน ดังนั้นสิ่งเล็ก ๆ นี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรเปลี่ยนสม่ำเสมอ หรือทำการล้างแบบละเอียดเพื่อล้างฝุ่นที่เกาะแผ่นกรองออก
3. หมั่นตรวจสอบสภาพเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ หากพบความผิดปกติให้รีบแจ้งช่างมาตรวจสอบ
อาการที่พบได้บ่อยที่สุด คือ น้ำหยดจากแอร์ อาการน้ำหยดเกินจากท่อแอร์ที่จะต้องระบายน้ำออกไปยังข้างนอก เกิดการสะสมของฝุ่นเป็นจำนวนมาก ทำให้ท่อตันและทำให้น้ำแอร์ไม่สามารถไหลออกไปได้ ทำให้เกิดน้ำไหลย้อนกลับมายังแอร์ และหยดลงมายังภายในห้อง
4. ใช้งานแอร์อย่างถูกวิธี เช่น ไม่ปรับอุณหภูมิต่ำเกินไป, ปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง
การปรับอุณภูมิต่ำสุดอยู่ตลอดเวลาจะทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไป อาจเป็นสาเหตุของการกินไฟเพิ่มขึ้น และควรพักแอร์บ้าง เพราะการที่แอร์ทำงานหนักตลอด 24 ชั่วโมงติดต่อกันหลาย ๆ วัน อาจทำให้อายุของแอร์สั้นลงได้ เพราะแอร์ต้องมีการแลกเปลี่ยนความร้อนออกตลอดเวลา รวมถึงการใช้อุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิภายนอกมาก ๆ อาจเป็นอีกสาเหตุที่กินไฟเพิ่มขึ้น
การล้างแอร์เป็นประจำถือเป็นวิธีสำคัญในการป้องกันปัญหาแอร์กินไฟขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากสิ่งสกปรกสะสม การบำรุงรักษาไม่ดี หรืออายุการใช้งานที่นานเกินไป นอกจากนี้ ควรดูแลรักษาแอร์ด้วยวิธีอื่นๆ เช่น เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ ตรวจสอบสภาพเครื่อง และใช้งานอย่างถูกวิธี เพื่อให้แอร์ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและยืนยาว
แนะล้างแอร์กับรักช่าง บริการดี สะอาดมีมาตรฐาน ติดต่อเลย Line:@rak-chang