รู้หรือไม่ว่า หากไม่ล้างแอร์เลย จะทำให้เกิดอะไรบ้าง
สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบง่าย ๆ และวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไป นั่นคือ “4 สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาล้างแอร์แล้ว!”
คุณเคยสังเกตไหมว่า แอร์ที่เคยเย็นฉ่ำกลับเริ่มไม่เย็นเหมือนเดิม หรือจู่ ๆ มีเสียงแปลก ๆ ดังออกมา? ถ้าเคย นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาต้องดูแลแอร์ของคุณแล้ว เรามาดูกันว่า 4 สัญญาณที่บอกว่าแอร์ของคุณต้องการความช่วยเหลือมีอะไรบ้าง!
ทำไมแอร์ถึงไม่เย็นเหมือนเคย??
แอร์ไม่เย็นเหมือนเดิม ถ้าคุณเปิดแอร์แล้วรู้สึกว่าอากาศไม่เย็นเหมือนก่อน อาจเกิดจากฝุ่นและคราบสกปรกที่สะสมอยู่ที่คอยล์เย็น ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น หรืออาจมีปัญหาน้ำยาแอร์รั่วหรือขาด ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักเกินไป และสุดท้ายพังได้เลยนะครับ!
แอร์เริ่มมีเสียงดังผิดปกติ ??
เคยไหม? เปิดแอร์แล้วได้ยินเสียง “ก๊อกๆ แก๊กๆ” หรือ “วี๊ดดดด” เสียงเหล่านี้อาจเกิดจากฝุ่นที่อัดแน่นในตัวเครื่อง หรืออุปกรณ์ภายในเสื่อมสภาพ ถ้าปล่อยไว้อาจทำให้แอร์พังเร็วขึ้น เพราะมอเตอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติ ทางที่ดีเรียกช่างมาตรวจสอบดีกว่าครับ!
เปิดแอร์สักพัก ก็เริ่มมีน้ำหยด
ปกติแล้วแอร์จะมีการระบายน้ำทิ้งผ่านท่อ แต่ถ้าคุณเริ่มเห็นน้ำหยดออกมาจากตัวเครื่อง อาจเกิดจากท่อระบายน้ำตัน หรือคอยล์เย็นสกปรกจนเกิดการสะสมของน้ำแข็งแล้วละลายออกมา ถ้าไม่รีบแก้ไขอาจทำให้เกิดความเสียหายกับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้เลยนะครับ!
ค่าไฟพุ่งสูงอย่างไม่มีเหตุผล
ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น แต่ค่าไฟกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุอาจมาจากแอร์ที่สกปรก ทำให้ต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อให้เย็นเหมือนเดิม แอร์ที่ไม่ได้ล้างเป็นเวลานานจะทำงานหนักขึ้น และส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ!
สรุปง่าย ๆ ถ้าแอร์ของคุณมี 4 สัญญาณนี้ อย่ารอช้า รีบล้างแอร์ให้สะอาด หรือเรียกช่างมาตรวจเช็กก่อนที่ปัญหาจะลุกลามใหญ่โต เพราะการดูแลแอร์ไม่ใช่แค่ช่วยให้แอร์ทำงานดีขึ้น แต่ยังช่วยประหยัดค่าไฟ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องไปได้อีกนานเลยครับ!
แล้วคุณล้างแอร์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ถ้านานจนจำไม่ได้ อาจถึงเวลาที่ต้องดูแลมันแล้วนะครับ! ขอบคุณที่ติดตาม ถ้าหากสนใจบริการเกี่ยวกับแอร์
แอดไลน์เลย @rak-chang คลิ๊ก!
หรือโทรที่เบอร์ 02-096-6220
