เครื่องซักผ้าเป็นอุปกรณ์ที่เราใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้าทุกวัน แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าตัวเครื่องซักผ้าเองก็ต้องการการดูแลทำความสะอาดเป็นประจำเช่นกัน หากปล่อยปละละเลยไม่ทำความสะอาด เครื่องซักผ้าที่ดูสะอาดภายนอก อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค แบคทีเรีย คราบสกปรก และกลิ่นอับชื้น ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในการซักผ้าในระยะยาว

ทำไมเครื่องซักผ้าจึงต้องการการทำความสะอาด

• เศษผ้าและเส้นใย: การซักผ้าแต่ละครั้ง จะมีเศษผ้า เส้นใย และสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่ในเครื่องซักผ้า เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งสกปรกเหล่านี้จะสะสมและก่อให้เกิดกลิ่นอับชื้น
• คราบสบู่และน้ำยาปรับผ้านุ่ม: คราบสบู่และน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ตกค้าง จะกลายเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรีย
• เชื้อราและแบคทีเรีย: สภาพแวดล้อมที่ชื้นและมืดภายในเครื่องซักผ้า เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย
• ผลกระทบต่อสุขภาพ: เชื้อโรคที่สะสมอยู่ในเครื่องซักผ้า อาจทำให้เกิดอาการคัน ผื่นแพ้ หรือโรคผิวหนังได้

สัญญาณบ่งบอกว่าเครื่องซักผ้าของคุณต้องการการทำความสะอาด

   1. มีกลิ่นอับชื้น: กลิ่นอับชื้นที่ออกมาจากเครื่องซักผ้า แสดงว่ามีเชื้อราหรือแบคทีเรียสะสมอยู่

   2. ผ้าซักแล้วไม่สะอาด: หากผ้าซักแล้วรู้สึกไม่สะอาดเหมือนเคย แสดงว่าประสิทธิภาพในการซักผ้าของเครื่องลดลง

   3. มีคราบดำหรือคราบสกปรกเกาะตามขอบยาง: คราบดำหรือคราบสกปรกที่เกาะตามขอบยาง เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีเชื้อราหรือแบคทีเรียเจริญเติบโต

   4. เครื่องซักผ้าทำงานผิดปกติ: สิ่งสกปรกที่สะสม อาจทำให้เครื่องซักผ้าทำงานผิดปกติได้

วิธีทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

👉 ทำความสะอาดถังซัก:

• ใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ
• ตั้งโปรแกรมซักที่อุณหภูมิสูงสุด
• ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกและที่ใส่ผ้าปั่น

👉 ทำความสะอาดตัวเครื่อง:

• เช็ดทำความสะอาดรอบๆ ตัวเครื่อง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นยาง
• ตรวจสอบและทำความสะอาดตัวกรอง

👉 ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ: ควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างน้อยเดือนละครั้ง

เเต่หากกำลังหาช่างชำนาญการ มาล้างเครื่องซักถึงบ้านท่าน ต้องบริการจาก รักช่าง!!